การสักปากเป็นหนึ่งในการเสริมความงามกึ่งถาวร (Semi-Permanent Cosmetics Tattoo) ที่ช่วยให้ริมฝีปากดูสวยได้รูปและมีสีสันอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก่อนตัดสินใจทำ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจ 15 ข้อควรรู้ก่อนสักปาก ตั้งแต่กระบวนการทำ สีที่เหมาะสม ไปจนถึงการดูแลหลังสัก เพื่อให้คุณมั่นใจและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และถ้าคุณอยากมีปากสวยอมชมพูแบบไม่ต้องพึ่งลิปสติก การสักปากหรือฝังสีปากช่วยคุณได้แบบเต็มร้อย ตื่นมาตอนไหนหน้าสดก็เอาอยู่ ไม่ต้องเสียเวลาทาลิปให้ยุ่งยาก ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย
-
- บำรุงริมฝีปากล่วงหน้า: บำรุงให้ชุ่มชื้นทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนสักปาก เพื่อช่วยให้สีติดง่ายและสม่ำเสมอ
- งดรับประทานของหมักดอง แอลกออฮอล ยาบำรุงเลือดและวิตามินซี: เนื่องจากการรับประทานของหมักดองอาจทำให้มีเชื้อโรคสะสมตกค้างในช่องปาก แอลกอฮอลทำให้ผิวปากแห้งสักติดยาก และวามินซีและยาบำรุงเลือดจะทำให้เลือดซึมออกง่าย และผลักสีสักออกในระหว่างสัก ทำให้สักไม่ติด
- ทานอาหารให้เรียบร้อย: ควรรับประทานอาหารให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเข้ารับบริการสักปาก เพื่อป้องกันการลำบากในการกินหลังทำ
- การสักปากไม่เจ็บ: เครื่องมือที่ใช้ทันสมัย และมีการทายาชาก่อนทำ ทำให้รู้สึกไม่เจ็บในระหว่างกระบวนการ
- อาการบวมหลังสัก: ปกติเทคนิคนี้จะไม่มีอาการบวม แต่ในบางรายอาจเกิดอาการบวมเล็กน้อยหลังสัก 1 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้เทคนิคที่เหมาะสม อาการบวมอาจไม่เกิดขึ้น
- สีปากหลังสักครั้งแรก: หลังจากสักครั้งแรก สีปากจะดูเข้มเหมือนทาลิปสติก แต่เมื่อเวลาผ่านไปและสีลอกออก จะได้สีที่อ่อนลง
- กระบวนการลอก: สีปากจะเริ่มหลุดลอกในช่วง 3-4 วันหลังจากการสัก ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติ
- สักปากที่ AKIRA STUDIO: ด้วยเทคนิค Ombre Lips เป็นเทคนิคการสักปากที่มีลักษณะเฉพาะคือการไล่สีสักที่มีคุณภาพสูงจากเฉดเข้มไปอ่อน โดยริมฝีปากด้านนอกจะถูกแต่งให้เข้มกว่า และเฉดสีจะค่อย ๆ จางลงไปยังส่วนด้านในของริมฝีปาก ทำให้บริเวณกลางริมฝีปากมีความสว่างที่สุด เทคนิคนี้ทำให้ริมฝีปากดูมีมิติและเต็มอิ่มยิ่งขึ้น คล้ายกับการแต่งหน้าที่ใช้สีและแสงเงาเพื่อสร้างลุคที่โดดเด่นและน่าสนใจ
- ห้ามถูหรือเกา: หลังสัก ห้ามถู แกะ หรือเกาบริเวณริมฝีปาก เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและสีไม่สม่ำเสมอ
- เลี่ยงการสัมผัสน้ำ: หลังสักปาก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำบริเวณปากในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อป้องกันการหลุดลอกของสีเร็วเกินไป
- บำรุงด้วยลิปมันที่มี SPF กันแดด : หลังปากลอกจนหมด ควรทาลิปมันที่มีส่วนผสมกันแดด หรือลิปบาล์มบ่อยๆ หลังสัก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากและช่วยในการฟื้นตัว
- อาจเกิดรอยคล้ำชั่วคราว: ริมฝีปากอาจมีรอยคล้ำในช่วงแรกหลังสัก เนื่องจากการอักเสบเล็กน้อย แต่จะหายไปเองเมื่อผิวฟื้นตัว
- งดทาลิปสติก: ไม่ควรทาลิปสติกจนกว่าสีปากที่สักจะลอกออกหมด เพื่อป้องกันการอุดตันและการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงลิปแมต: ไม่ควรใช้ลิปสติกสีด้านหรือสีแมต เพราะอาจทำให้ริมฝีปากแห้งและคล้ำขึ้น
- กรณีฉีดฟิลเลอร์ปาก: หากเคยฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรรออย่างน้อย 1 เดือนก่อนสักปาก แต่ถ้ายังไม่ได้ฉีด แนะนำให้สักปากก่อนฉีดเพื่อป้องกันการอักเสบจากการทำทั้งสองอย่างใกล้ๆ กัน
สรุปการสักปากออมเบรเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องของสีปาก ช่วยปรับสีปากให้ดูสดใสและเรียบเนียนขึ้น ที่ Akira Studio เรามีช่างที่มีประสบการณ์และมีมุมมองทางศิลปะ อีกทั้งยังใช้สีสักที่ปลอดภัย ต่อสุขภาพ ลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้และติดเชื้อ หลังทำอาจมีอาการบวมและลอกเป็นขุย ควรหลีกเลี่ยงอาหารร้อนหรือรสจัด งดสูบบุหรี่ และทาลิปบาล์มบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สีติดทนนานและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ